Wednesday, August 27, 2014

Bodyslam

Bodyslam



บอดี้สแลม เป็นวงดนตรีร็อกที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย สมาชิกวงที่เป็นที่รู้จักกันดีจากวงนี้คือนักร้องนำของวง อาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน) บอดี้สแลมได้ออกอัลบั้มล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2553 ใช้ชื่ออัลบั้มว่า "คราม" ทั้งนี้เพลงส่วนใหญ่ได้อิทธิพลมาจากดนตรีร็อกจากฝั่งสหรัฐอเมริกาในยุคต้น 90 ผสมผสานกับดนตรีแนวโปรเกรสซีฟร็อก

'บอดี้สแลม มีชื่อวงเดิมว่า ละอ่อน โดยมีสมาชิกจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ทั้งหมด 6 คน โดยในปี พ.ศ. 2539 ได้เข้าประกวดวงดนตรี ประเภทมัธยมศึกษาของ คลื่นวิทยุHot Wave ในงาน Hot Wave Music Awards และ ได้รางวัลชนะเลิศ ทำให้วงละอ่อนได้รับการเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัด มิวสิกบั๊กส์ โดยออกอัลบั้มแรกและอัลบั้มที่สองแล้วจึงแยกวง

ภายหลังในปี พ.ศ. 2545 ทางสมาชิกเก่าของวงละอ่อน 3 คน ได้มีการรวมวงใหม่อีกครั้งภายใต้การดูแลของทีม Mango Team และ ออกสตูดิโออัลบั้มแรกภายใต้ชื่อของวง Bodyslam โดยที่อัลบั้มมีชื่อว่า Bodyslam โดยที่เพลงที่ประสบความสำเร็จคือเพลง"งมงาย" และเพลงฮิตอื่นๆในอัลบั้ม เช่น สักวันฉันจะดีพอ,ทางของฉัน ฝันของเธอ,ย้ำ,และ อากาศ ทำให้วงบอดี้แสลม เริ่มเป็นที่รู้จักทั่วประเทศในอัลบั้มแรก

ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 2 อัลบั้ม Drive ก็ได้ออกมาวางจำหน่ายโดยที่มีเพลง "ความซื่อสัตย์"และ"ปลายทาง" ประสบความสำเร็จอีกครั้ง โดยที่ หลังจากออกอัลบั้ม Drive เสร็จสิ้นแล้ว พวกเขาก็ออกจากค่ายมิวสิกบั๊กส์และเซ็นต์สัญญากับ จีนี่ เรคอร์ด ซึ่งอยู่ในสังกัด จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ซึ่งเป็นสังกัดเดียวกับศิลปินรุ่นพี่วงบิ๊กแอส (BIG ASS) และได้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในวงเกิดขึ้นเมื่อ เภา-รัฐพล พรรณเชษฐ์ มือกีตาร์ของวงก็ได้ขอแยกตัวออกไปทำอัลบั้มเดี่ยว (ในชื่อ Present Perfect) สังกัด ค่ายสนามหลวง

อัลบั้ม Believe (พ.ศ. 2548) ทางวงได้หาสมาชิกใหม่เพื่อมาทำสตูดิโออัลบั้มใหม่ โดยที่มีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามาคือ ยอด-ธนชัย ตันตระกูล มือกีตาร์ที่เคยเป็นนักดนตรีแบ็คอัพให้กับหลายศิลปิน ในตำแหน่งมือกีตาร์ กับ ชัช-สุชัฒติ จั่นอี๊ด มือกลองที่เคยแบ็คอัพ ให้กับ BODYSLAM มาตั้งแต่อัลบั้มแรก โดยที่หลังจากได้สมาชิกครบแล้ว พวกเขาก็ออกสตูดิโออัลบั้มใหม่ ในชื่อว่า Believe เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรกกับเพลง "ขอบฟ้า" ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างดี และมีอีกหลายเพลงในอัลบั้มที่ได้รับความนิยม เช่น "ความรักทำให้คนตาบอด" "พูดในใจ" "คนที่ถูกรัก" และเพลงได้มีแขกรับเชิญพิเศษ "แอ๊ด คาราบาว" ในเพลง "ความเชื่อ" ยังมีเพลงอื่นๆ ที่นิยมอีก อาทิ "ห้ามใจ" "รักก็เป็นอย่างนี้"

อัลบั้ม Save My Life (พ.ศ. 2550) เพลงเปิดตัวเพลงแรกของสตูดิโออัลบั้มนี้ คือเพลง "ยาพิษ" เมื่อออกสู่ผู้ฟัง ก็ได้รับการตอบรับไม่น้อย เนื่องจากเนื้อหาและความหนักหน่วงทางดนตรีที่เพิ่มขึ้นมาก (มีดนตรีแนว Alternative ให้เห็นอย่างเด่นชัด) อาจจะรู้สึกได้ว่าในสตูดิโออัลบั้มนี้ แนวทางดนตรีของทางวงได้มีการเปลี่ยนแนวไป โดยเพลงอื่นๆในอัลบั้มที่เป็นที่นิยมก็มีหลายๆเพลงเช่น 'ยิ่งรู้ยิ่งไม่เข้าใจ,อกหัก,นาฬิกาตาย' ในอัลบั้มนี้ ตูนได้แต่งเพลงเองสองเพลงคือเพลง แค่หลับตา ซึ่งเพลงนี้ตูนได้ร้องคู่กับปนัดดา เรืองวุฒิ และเพลงขอบคุณน้ำตา และอีกเพลงที่ตูนแต่งเพลงร่วมกับ ขจรเดช พรมรักษา หรือ กบ Big Ass โปรดิวเซอร์ก็คือเพลง ยาพิษ และเป็นเกียรติของวง ที่เพลง เสี้ยววินาที ถูกใช้เป็นเพลงประกอบโฆษณา 24thSea Games 2007 Information Center Nakhon Ratchasima THAILAND
อัลบั้ม Project "PLAY" (พ.ศ. 2552) เป็น อัลบั้มพิเศษของทาง Gmm Grammy ที่จัดขึ้นมาเพื่อฉลอง 25 Gmm Grammy โดยอัลบั้มนี้จะอยู่ในหมวดของ Rock โดยให้แต่ละศิลปินได้เลือกเพลงเก่าของตำนานของ Gmm Grammy มา Cover ใหม่ ให้เป็นแนวของศิลปินเอง โดยทางวงได้เลือกเพลง เสียดาย ของ ธงไชย แมคอินไตย์

อัลบั้ม คราม (พ.ศ. 2553) สตูดิโออัลบั้ม ลำดับที่ 5 ของบอดี้แสลม หลังจากที่ ตูน นักร้องนำได้ลาสิกขาบทออกมาโดยการเปิดตัวซิงเกิ้ลใหม่ในสตูดิโออัลบั้มนี้ เพลง "คราม" ซึ่งมาพร้อมกับความแปลกใหม่ ในการใช้ซินธิไซเซอร์ ผสมลงไปในเพลงด้วย ตามด้วยซิงเกิ้ลที่ 2 อย่างเพลง"ความรัก" ซึ่งกลายเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดของอัลบั้มนี้ และมียอดการดาวน์โหลดสูงสุด ต่อมาในช่วงกลางปี ก็ได้ปล่อยเพลง "คิดฮอด" เพลงที่สร้างความแปลกใหม่ให้วงการเพลงร็อกไทย ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่ทางวง ได้นำเอาทำนองแบบหมอลำเข้ามาผสมในเพลงด้วย โดยได้เชิญ ศิริพร อำไพพงษ์ มาช่วยกันแต่งเนื้อใส่ในเพลงร็อกสไตล์โมเดิร์นที่มีกลิ่นอายของหมอลำจากพวกเค้า สร้างกระแสให้เพลงนี้เป็นที่พูดถึงมากในชุดนี้ก็ว่าได้ และยังมีเพลงในอัลบั้มที่เป็นที่นิยม อย่าง "เปราะบาง" และ "แสงสุดท้าย

และ Bodyslam ยังคงเป็นวงร็อคที่ยืนอยู่บนความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านของชื่อเสียง และรางวัลทางด้านดนตรี ล่าสุดกับ รางวัล แฟต อวอร์ด ปีล่าสุด 
อะไรที่ทำให้ 4 หนุ่มยังยืนอยู่ในใจนักฟังร็อคเจนเนอร์เรชั่นนี้ ผมขอพาด่ำดิ่งสู่เบื้องลึกของงานดนตรีที่ถ่ายทอดแนวคิดของพวกเขา ตั้งแต่เริ่มต้นจนปัจจุบัน

"งมงาย"
เพลงนี้อยู่ในอัลบั้มแรกของบอดี้แสลมซึ่งเป็นเพลง signature เกี่ยวกับเรื่องราวของ ตูน นักร้องนำ บ่อยครั้งเวลาที่ "ตูน Bodyslam" ไปเล่นคอนเสิร์ต เขาจะพูดถึงคนรักเก่าเสมอ เพลงนี้เป็นการเพ้อถึงคนรัก ระยะทางห่างกันแต่ยังยืนยันที่จะรอแม้จะอะไรเป็นเครื่องยืนยันว่าเขาจะกลับมา เพลงนี้เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวของบอดี้แสลม ทุกวันนี้เขาก็พิสูจน์ได้ว่าสิ่งดีๆ ก็เกิดขึ้นได้ แม้จากจุดเริ่มต้นจะเป็นการสูญเสียก็ตาม

"ภาพลวงตา"
อัลบั้ม Drive เป็นอัลบั้มที่สองของ Bodyslam เป็นการกำเนิดจุดยืนของ Bodyslam ซึ่งทำให้เขาโด่งดังจนทุกวันนี้ นั่นก็คือเพลง “ภาพลวงตา” เป็นเพลงที่พูดถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญบนถนนสายดนตรีของพวกเขานี่เอง เนื้อเพลงพูดถึงความฝันและความล้มเหลว “ใครกี่คนที่ฝัน และ สิ่งนั่นได้เป็นดังใจ ฉันหนึ่งคนที่หวัง สิ่งเหล่านั่นไม่เป็นอย่างที่ฝัน ได้แค่ฝัน อาจเป็นเพียงภาพลวงตา”หากบอดี้แสลมเปรียบเสมือนไฟนำทางสำหรับแฟนเพลง "ภาพลวงตา" ก็เปรียบได้กับเทียนเล่มแรกที่ส่องทางในความมืดบนถนนถสายดนตรี ให้พวกเขาเดินมาได้จนทุกวันนี้

"หลังฝน"
“เธอจะได้กำลังใจจากฟ้า เธอจะได้รับรู้ว่ารักนี้มีค่า” เพลงนี้ตั้งชื่อ "หลังฝัน" เป็นการเปรียบเปรย "ฝน" ว่าหมายถึงอุปสรรค หรือวันที่หมองมัว แต่ว่าทุกครั้งที่ฝนตกพายุกระหน่ำ อย่างไรก็ตามมันก็ต้องผ่านพ้นไป แสงอาทิตย์ต้องออกมาให้เห็นอีกครั้ง แล้วตอนนั้นเราก็จะได้รู้ว่าจริงๆแล้ว วันที่สดใสมันมีค่ามากว่าที่เรารู้สึกในทุกๆวัน เรียกว่าเป็นเพลงที่ให้ความสดใสแก่วันที่เราหม่นหมองจริงๆ

"จันทร์ยังเต็มดวง"
ในเวลาที่เราโศกเศร้า มืดแปดด้าน หลายสิ่งเช่นดอกไม้ หรือแสงจันทร์ยังคงงดงามเช่นเดิม มีเพียงเราที่รู้สึกต่างออกไป เราอาจมองไม่เห็นหลายๆ สิ่ง ที่ทำให้เรารู้สึกว่าจริงๆ แล้วชีวิตเรามีค่า เพลง "จันทร์ยังเต็มดวง" นี้เป็นเพลงAcousticช้าๆ Concept ของเพลงคืออยากให้รู้ว่าแม้มองไม่เห็นหรือหมอกจะบดบังไว้ แต่ดวงจันทร์ก็ยังอยู่ บางครั้งแม้คุณจะรู้สึกท้อถอย แต่บางสิ่งบางอย่างยังอยู่ตรงนั้นเพื่อเป็นกำลังใจตลอด ความรักยังคงอยู่ตรงนั้นเพื่อเธอตลอด

ความเชื่อ
“มันเกือบจะล้มมันเหนื่อยกันล้าเหมือนแทบขาดใจ เดินมาจนท้อไม่เจอจุดหมายปลายทางที่ฝัน…” หนึ่งเพลงที่น่าจดจำที่สุดของบอดี้แสลมซึ่งมี "แอ๊ด คาราบาว" idol ของตูนมาร้องด้วย หลังจากได้พัฒนาแนวทางดนตรีจากสองอัลบั้มแรก พวกเขาก็ได้ปล่อยสุดยอดเพลงให้กำลังใจ ซึ่งกินใจทุกคนทุกวันนี้ ประโยคที่ว่า “ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน” จุดประกายความหวังให้ลุกโชน ลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้ง เพลงนี้ช่วยได้เสมอในยามทุกข์ท้อใจเพลงนี้ตอกย้ำให้บอดี้แสลมกลายเป็นหนึ่งในวงร็อคชั้นนำของเมืองไทย

"ความรักทำให้คนตาบอด"
เพลงอกหักตลอดกาลของคนยุคใหม่คงไม่พ้นเพลงนี้ เรียกว่าทุกคนสามารถร้องตามเพลงนี้ของบอดี้แสลมได้หมด ตอนนั้นทางวงได้มีการช่วยจาก Producer รุ่นพี่อย่างบิกแอส เพลงเลยหนักขึ้นโดยมีการเน้น Distortion (ปรับจูนเสียงกีตาร์ให้ต่ำ แตกได้ซาวนด์ที่หนาหนักหน่วงขึ้น)ของกีต้าร์ซึ่งทำให้เพลงเป็นร็อคอย่างเต็มตัว สำหรับเนื้อเพลงก็คงเพ้อถึงแฟนเก่าเช่นหลาย ๆ เพลง เลยโดนๆแฟนเพลงเหมือนเดิม “มันอาจจะผิดที่เป็นอย่างนี้ ที่มันยังรักเธอจนสุดหัวใจ” อัลบั้มที่สามบอดี้แสลมยังเป็นผู้นำการแต่งกายสีดำ พร้อมๆกับ slogan ว่า “ผมอยากเห็นคนไทยบินได้”

"อกหัก"
อัลบั้มที่สี่ Save My Life เปิดตัว โดย E.P. ยาพิษ ซึ่งปฏิวัติวงการเพลงไปอย่างสิ้นเชิง ธรรมดาแล้วเพลงไทยจะมิกส์เสียงร้องดังมาก แต่บอดี้แสลมกลับมิกซ์เพลงได้อย่างสมบูรณ์แบบตามเพลงสากล ซึ่งเน้นดนตรีขึ้นมา เพลงอกหัก เป็นเพลงให้กำลังใจตัวเองหลังจากอกหักมาสามอัลบั้มแล้วก็ได้ข้อสรุปสักที เนื้อเพลงก็เพิ่มความลึกเข้าไป ซึ่งทำให้เพลงมีคุณภาพมากๆ “ชีวิตแค่โดนทำร้าย แต่ที่สุดมันต้องไม่โดนทำลาย” ทรงผมยาวเซอร์ของตูนบวกกับเสียงหลบที่ทำให้คนดูอึ้ง ทำให้บอดี้แสลมกลายเป็นวงเทพของวงการ 

"เเค่หลับตา"
อัลบั้ม Save My Life คือพัฒนาการอย่างแท้จริงของบอดี้แสลม เพลง”แค่หลับตา”มีการเล่นคำอย่างสวยงาม พร้อมเสียงร้องของปนัดดาซึ่งทำให้เพลงมีมิติมากขึ้น บวกกับการเล่นเบสของปิ๊กที่ดูยุ่งยากพอสมควร “รักเอยอยู่ที่ใดยังฝันใฝ่ ยังคงตามหา” มีเนื้อหาลึกซึ้ง เกี่ยวกับความรักครั้งเก่า แต่เปลี่ยนมุมมองเป็นการมองย้อนกลับไป ทำใจและเข้าใจ

ขอบคุณน้ำตา
เพลงนี้เป็นการพลิกมุมการมองอุปสรรคของชีวิตให้เป็นการเรียนรู้ แทนที่จากเศร้าไปกับมันเรากลับต้องขอบคุณมัน อดีตเป็นอย่างไรไม่รู้แต่เราจะเตรียมตัวกับก้าวต่อไป กับอนาคต อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้แล้วเราจะได้ไม่พลาดซ้ำอีก “ขอบคุณน้ำตาที่สอนให้จำในบทเรียนน้ำตา” อัลบั้มนี้มีการเพิ่มเติมของคีย์บอร์ดอย่างชัดเจนจาก และมีการเล่นลวดลายการมิกซ์ เพื่อโชว์ฝีมือมากขึ้น ตูนได้พัฒนาเสียงขึ้นมาอย่างชัดเจนใน Save My Life 

"แสงสุดท้าย"
ตั้งแต่เพลงความเชื่อสร้างปรากฏการณ์ คนก็ยังรอคอยอะไรประมาณนั้นออกมา และเพลงแสงสุดท้ายในอัลบั้มครามก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างเต็มที่ “ในค่ำคืนที่ฟ้านั่นไม่มีดาวอยู่ตรงนี้ ฉันยังคงก้าวไป ยังคงมีรักแท้เป็นแสงนำไปในคืนที่หลงทาง” นี่คือบทสรุปเรื่องราวของบอดี้แสลมตั้งแต่อัลบั้มแรกถึงจังหวะที่พวกเขาก้าวขึ้นราชมังคลากีฬาสถาน แรงบันดาลใจของเขาคือแฟนคนที่ทิ้งเขาขึ้นเครื่องไปอเมริกานี่เอง เปรียบเสมือนรักแท้ที่นำแสงเขาถึงทุกวันนี้ แม้เขาจะไม่รัก แต่ความรักตูนมีพลังพอที่จะทำให้เขามีแรงทำดนตรีต่อไป ผ่านอุปสรรคมากมาย คือค่ำคืนที่มืดมน เพลงนี่คือสรุปทุกอย่าง

และ bodyslam ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆคน รวมถึงตัวผมด้วย ที่ทำให้ชอบในเสียงดนตรี และหลงรักในเสียงดนตรี Bodyslam จึงเป็นวงดนตรีที่เป็น idol ของวัยรุ่นไทยในยุคนี้อย่างแท้จริง

             ขอบคุณข้อมูลจาก http://news.gmember.com/ และ รูปภาพจาก google

No comments:

Post a Comment